วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2563

iPhone SE 2 ใช้ได้ 2 SIM (eSIM)- คืออะไร ทำงานยังไง มีค่าบริการเพิ่มไหม?

iPhone SE 2 ใช้ได้ 2 SIM (eSIM)- คืออะไร ทำงานยังไง มีค่าบริการเพิ่มไหม?
 iPhone รุ่นที่รองรับ eSIM และระบบซิมคู่ได้แก่
- iPhone XS, XS Max, XR ปี 2018


วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563

วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2563

วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2563

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2563

การชาร์จแบบไร้สาย ทำให้แบตเสื่อมเร็วจริงหรือไม่ ที่นี่มีคำตอบ

แบตเตอรี่มือถือทำงานอย่างไร?

มือถือในปัจจุบันนี้ใช้แบตเตอรี่ประเภท ลิเธียม-ไอออน (Lithium-ion) เซลล์ของแบตเตอรี่ประกอบด้วยอีเล็คโทรด (Electrode) 2 ชนิดคือ แคโทด (Cathode) และ แอโนด (Anode) โดยมี ประจุอีเล็คโทรไลต์ (Electrolyte) อยู่ในระหว่าง 2 เซลล์นี้ เมื่อมีการชาร์จไฟ อีเล็คโทรไลต์ จะเดินทางจากขั้วบวกไปขั้วลบ และเมื่อใช้งานก็จะเดินทางจากขั้วลบไปขั้วบวก
ผู้ผลิตแบตเตอรี่จะเป็นคนกำหนดว่าในแต่ละเซลล์จะเก็บพลังงานได้เท่าไหร่และกำหนดว่าแบตเตอรี่จะให้พลังงานเราใช้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งในระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ อุปกรณ์จะถูกกำหนดแรงดันไฟ (Voltage) เอาไว้ว่าจะรับแรงดันไฟได้ไม่เกินเท่า หรือห้ามต่ำกว่าเท่าไหร่ โดยค่าตรงนี้จะถูกกำหนดมาตายตัวโดยผู้ผลิตอุปกรณ์ ถ้าใช้งานตามปกตินี้ แบตเตอรี่จะมีรอบการชาร์จ (Cycle) ได้มากกว่าหนึ่งพันรอบเลยทีเดียว
และด้วยข้อกำหนดตรงนี้เอง จึงเป็นไปไม่ได้ที่การเสียบชาร์จหรือวางบนแท่นชาร์จไร้สายทิ้งไว้ทั้งคืนจะทำอันตรายต่อแบตเตอรี่

รอบการชาร์จของแบตเตอรี่?

แบตเตอรี่แต่ละก้อนก็จะมีมาตรฐานที่ต่างกันออกไป แต่เมื่อใช้งานไปถึงจุดที่รอบการชาร์จสูงถึงระดับนึง แบตเตอรี่ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพลง โดยปกติแบตเตอรี่ก้อนนึงเมื่อมีรอบการชาร์จถึง 500 รอบ ก็จะยังสามารถเก็บไฟได้มากถึง 80% ของความจุเต็มๆ
1 รอบการชาร์จนับจากการที่ชาร์จแบตเตอรี่รวมครบ 100% 1 รอบ เช่น ใช้งานไปจนเหลือ 70% แล้วชาร์จอีก 30% จนเต็มจะนับเป็น 0.3 รอบ ต่อมาใช้งานไปจนเหลือ 20% แล้วชาร์จอีก 80% จนเต็มจะนับ 0.8 รอบ รวมสองครั้งเป็น 1.1 รอบ
ข้อเสียของการชาร์จไร้สายที่เป็นที่พูดถึงกันมากที่สุดคือ มีการตั้งข้อสังเกตในบทความของ ZDNet กันว่าเมื่อชาร์จแบบมีสาย แบตเตอรี่จะได้พักระหว่างชาร์จ แต่ถ้าชาร์จแบบไร้สาย แบตจะชาร์จตลอดเวลา ทำให้รอบการชาร์จเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลให้แบตเสื่อมไวกว่าการชาร์จแบบมีสาย แต่จะจริงหรือไม่?
“แบตเตอรี่จะไม่ถูกใช้งานขณะชาร์จแบบไร้สาย มันเป็นการเข้าใจผิด” กล่าวโดยนาย Menno Treffers ประธาน Wireless Power Consortium (WPC)

ตรวจสอบความร้อน

ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่นั้นจะเสื่อมด้วย 3 ปัจจัยคือ เวลา,​ อุณหภูมิ และแรงดันไฟ ซึ่งจาก 3 ปัจจัยนี้ เราไม่สามารถหยุดเวลาได้ และแรงดันไฟก็ถูกตั้งโดยผู้ผลิตมือถือ ดังนั้นสิ่งที่เราพอจะควบคุมได้ก็เหลือแค่อุณหภูมิ
การใช้งานเครื่องชาร์จไร้สายที่ได้มาตรฐานเป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องเลือกใช้อันที่ผ่านการทดสอบจาก Qi-certified แล้วเท่านั้น หากใช้อันที่ไม่ผ่านการทดสอบอาจพบปัญหาเรื่องความร้อนที่สูงขณะชาร์จ ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าที่ควรได้ (ชาร์จแบบมีสายก็เกิดความร้อนได้เช่นกัน ต้องหมั่นระวังให้ดี)
นอกจากนี้การใช้งานกลางแดด หรือเล่นเกมที่กราฟฟิคโหดๆ ขณะชาร์จแบต ก็ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมไวเช่นกัน

ข้อความระวังในการชาร์จ

การชาร์จแบตเตอรี่ มีข้อควรระวังเพื่อการรักษาอายุแบตให้ยาวนาน คืออย่าพยายามให้แบตเตอรี่เหลือน้อยหรือหมดบ่อยๆ เพราะการชาร์จไฟขณะแบตเหลือน้อยมาก จะทำให้แบตเตอรี่ต้องการประจุไฟมากเป็นพิเศษ และส่งผลให้รอบการชาร์จเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ถ้าให้ดีคือไม่ควรปล่อยให้แบตลดเกิน 50% ควรจะชาร์จเรื่อยๆ เมื่อมีโอกาส แต่การชาร์จทิ้งไว้ให้เต็มตลอดโดยไม่ถอดปลั๊กเลย ก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วเช่นกันเพราะทำให้ประจุไม่เดิน
วิธีการที่ดีคือใช้ๆ ชาร์จๆ ตามสะดวก ไม่ต้องให้แบตเหลือน้อยบ่อยๆ หรือเต็มทิ้งไว้เป็นวันๆ (ทางสายกลาง)
นอกจากนี้คุณภาพของแบตเตอรี่ก็เป็นสิ่งสำคัญ หากได้แบตเตอรี่ที่ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพไม่ดี อายุของแบตเตอรี่ก็จะสั้นกว่าแบตเตอรี่ที่คุณภาพดี หรือเรียกสั้นๆ ว่า “คุณภาพตามราคา” ก็ว่าได้

สรุป

การชาร์จไร้สาย ไม่ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมไว ปัจจัยที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น การใช้จนแบตหมดบ่อย หรือทำให้เครื่องร้อนบ่อยๆ นั่นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2563

สรุปผล การประมูลคลื่นความถี่ 5G ทุกคลื่น 700,1800,2600 และ 26000 MHz

สรุปผล การประมูลคลื่นความถี่ 5G ทุกคลื่น 700,1800,2600 และ 26000 MHz



สรุปครบ! ทุกเรื่องเกี่ยวกับ 5G ในไทย | LDA เฟื่องลดา

สรุปครบ! ทุกเรื่องเกี่ยวกับ 5G ในไทย | LDA เฟื่องลดา



วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2563

iPhone ปีนี้อาจจะรองรับ 5G

iPhone ปีนี้อาจจะรองรับ 5G แต่ใช้เสาสัญญาณของ Apple แทน Qualcomm

5G
ตามธรรมเนียม Apple มักจะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในเดือนกันยายนของทุกปี และปีนี้มีข่าวลือว่า iPhone ที่เปิดตัวปีนี้จะรองรับการเชื่อมต่อ 5G ด้วย
iPhone 11 Pro
เทคโนโลยีที่ทำให้ iPhone ปีนี้เชื่อมต่อ 5G ได้ก็คือ Qualcomm Snapdragon X55 โมเดมสำหรับ 5G จากทาง Qualcomm นั่นเอง เป็นผลมาจากการที่ปีที่แล้ว Apple เจรจาสงบศึกและยอมจ่ายเงินให้กับ Qualcomm เพื่อฟื้นความสัมพันธ์กันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้ตั้งใจว่าจะใช้ของจาก Qualcomm ทั้งหมด โดย Fast Company รายงานว่า Apple จะพัฒนาเสาสัญญาณเชื่อมต่อ 5G เอง เนื่องจากของ Qualcomm นั้นหนาเกินไป
Qualcomm QTM525 ที่อยู่ใน Snapdragon X55 นั้นออกแบบมาเพื่อให้รับสัญญาณคลื่นความถี่สูง mmWave ได้ แต่ปัญหาคือมันทำให้มือถือหนาขึ้น และ Apple ไม่ปลื้มกับการเพิ่มความหนา iPhone เท่าไหร่ จึงพัฒนาเสาสัญญาณใช้งานเองเพื่อให้โทรศัพท์บางลง และคงประสิทธิภาพเอาไว้
โดยปกติแล้วมือถือ 5G ที่วางจำหน่ายในสหรัฐจะมีเสาสัญญาณ mmWave หลายอัน เพื่อให้รับสัญญาณได้ไม่ว่าผู้ใช้งานจะถือในท่าไหนก็ตาม แต่ต้องไม่ลืมว่าการพัฒนาเสาสัญญาณ 5G นั้น Qualcomm มีส่วนร่วมตั้งแต่มาตรฐานถูกร่าง ขณะที่ Apple เพิ่งจะเริ่มทำเมื่อปีที่ผ่านมา แปลว่าสุดท้ายแล้ว Apple อาจจะไม่สามารถพัฒนาเสาสัญญาณเป็นที่น่าพอใจ และต้องหันกลับไปใช้ของ Qualcomm ก็ฌป็นได้เช่นกัน
แน่นอนว่า Apple อยากตัดความสัมพันธ์กับ Qualcomm และไม่ใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Apple ไม่สามารถหาพาร์ทเนอร์อื่นมาแทนได้ (Apple หันไปหา Intel แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโมเดม 5G จนต้องกลับมาหา Qualcomm) เสาสัญญาณนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโมเดม 5G ใช้งานเองอีกครั้งหลังจากเข้าซื้อทีมพัฒนามาจาก Intel แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าชิปโมเดม 5G ของ Apple ยังไม่พร้อมใช้งานจนกว่าจะถึงปี 2023